นับตั้งแต่วันเสาร์ที่ผ่านมาที่ น.ส. ราฮาฟ โมฮาเหม็ด แอล-เคนูน หญิงซาอุดีอาระเบียวัย 18 ปี ถูกกักตัวที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิขณะพยายามจะเดินทางหนีจากครอบครัวไปออสเตรเลีย รัฐบาลไทยพยายามที่จะส่งตัวเธอกลับประเทศ ตั้งแต่สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

ซึ่งเรื่องนี้ ล่าสุด  พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ก็ได้เข้ามาจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนเป็นอย่างมาก เพราะเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนโดยตรง

ซึ่ง พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ หักพาล  ได้ยืนยันว่า น.ส. ราฮาฟ ซึ่งได้รับอนุญาตให้พำนักไทยเป็นการชั่วคราวเพื่อให้อยู่ใต้ความดูแลของเจ้าหน้าที่ สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็นเอชซีอาร์ (UNHCR) จะเดินทางไปแคนาดาด้วยเที่ยวบินเวลา 23.15 น. ในคืนวันที่ 11 มกราคม ที่ผ่านมา โดยเป็นความร่วมมือระหว่าง ยูเอ็นเอชซีอาร์ และทางการแคนาดา

ก่อนหน้านี้ หญิงสาววัย 18 ปี ปฏิเสธการส่งตัวโดยทางการไทยไปยังคูเวตทางเครื่องบิน และไม่ยอมออกจากห้องพักโรงแรมภายในสนามบินสุวรรณภูมิเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา โดยระบุว่า เธอหวาดกลัวว่าจะถูกครอบครัวฆ่าเนื่องจากการเปลี่ยนศาสนา

บัญชีทวิตเตอร์ของ น.ส. ราฮาฟ เพิ่งถูกสร้างขึ้นมาเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา และปัจจุบันได้โพสต์ข้อความออกไปกว่า 190 ข้อความ และมีผู้ติดตามกว่า 90,000 คน

ก่อนหน้านี้ ผู้ใช้งานสื่อสังคมออนไลน์พร้อมใจติดแฮชแท็ก #SaveRahaf จนกลายเป็นหนึ่งในเทรนด์ทวิตเตอร์ยอดนิยมในประเทศไทย ออสเตรเลีย และซาอุดีอาระเบีย ในช่วงสามวันที่ผ่านมา

นักการเมืองและนักสิทธิมนุษยชนในไทยเองก็แสดงความคิดเห็นผ่านโซเชียลมีเดียที่ไม่เห็นด้วยกับการส่งตัว น.ส.แอล-เคนูน กลับประเทศ รวมถึงนายเกออร์ค ชมิดท์ (Georg Schmidt) เอกอัครราชทูตเยอรมันประจำประเทศไทย ที่ได้โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ว่า มีความเป็นห่วง น.ส.แอล-เคนูน อย่างยิ่ง และได้ติดต่อกับฝ่ายไทย รวมถึงสถานทูตต่าง ๆ ของประเทศที่เกี่ยวข้อง

นับว่าการตัดสินใจของ พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ หักพาล ที่อนุยาติให้ น.ส. ราฮาฟ พำนักอยู่ในประเทศไทยถึง 5 วัน ซึ่งอยู่ในความดูแลของ ยูเอ็นเอชซีอาร์ (UNHCR) เพื่อรอการลี้ภัยไปยังประเทศที่ 3 ตามที่เธอต้องการ ถือเป็นเสมือนบทเรียนหนึ่งของการพิจารณา ตามกฏหมายสากล และหลักสิทธิมนุษยชน หลักนิติะรรม จริยธรรม มาใช้ในการพิจารณา ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ชาวโซเชียลทั่วโลก ต่างชื่นชม กับผลสรุปที่เป็นไปได้ด้วยดี